หากติดอยู่ภายในถ้ำ เทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ตัวไหนจะช่วยเราได้

จากกรณีที่มีน้อง ๆ และโค้ชทีมฟุตบอล “หมูป่า” ทั้ง 13 คน ติดอยู่ใน “ถ้ำหลวง” เขตอุทยานขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย หากเกิดขึ้นกับเรา จะมีอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีอะไร มาช่วยยื้อชีวิตเราได้บ้าง

หลังมีข่าวน้อง ๆ และโค้ชทีมฟุตบอล “หมูป่าอะคาเดมี่” ติดอยู่ในถ้ำหลวง เขตอุทยานขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบัน (ที่เขียนบทความนี้) ยังไม่ทราบชะตาชีวิตของทั้ง 13 คนเลย แทบไม่อยากจินตนาการเลยว่า สภาพของคนที่ติดอยู่ในถ้ำจะเป็นอย่างไร ในที่ที่ทั้งมืด ทั้งชื้น ทั้งหนาว และกดดันสุดขีดแบบนั้น แถมต้องติดเป็นเวลานานอีก ในกรณีนี้จึงเกิดเป็นคำถามว่า หากเราไปเจอเอง จะมีเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์อะไรมาช่วยให้เอาตัวรอดได้บ้าง

อย่างแรกที่จำเป็นแน่นอน และคงเป็นอะไรที่ทุกคนพกติดตัวเสมอคือ “สมาร์ทโฟน” เพราะสามารถใช้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ หรือเป็นสิ่งช่วยประคองจิตใจไปเลยก็ได้ (เช่น บางคนอาจมีรูปครอบครัวในเครื่อง) แต่สมาร์ทโฟนอย่างเดียวคงไม่พอ ลองมาดูกันครับว่า ยังมีอะไรที่จะสามารถช่วยเราหากติดอยู่ภายในถ้ำได้บ้าง

ข้อมูล : @KBenZ ,www.aripfan.com

เทคโนโลยีเอไอ-ภาพเสมือนจ่อพลิกโฉมวงการท่องเที่ยว

 

งานแสดงการท่องเที่ยวประจำกรุงมาดริด ประเทศสเปนเผยให้เห็นว่า ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกกำลังเตรียมปรับตัวรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ชั้นยอดให้กับบรรดาแขกผู้มาเยือน ไม่ว่าจะเป็นระบบจดจำใบหน้าที่ทำให้ลูกค้าสามารถเช็กอินได้เพียงไปยืนอยู่หน้ากระจก หรือการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) จดจำข้อมูลส่วนตัวของผู้เข้าพัก ให้ห้องสามารถปรับอุณหภูมิ ความสว่าง ของตกแต่ง รวมไปถึงวิวนอกหน้าต่างได้ตามใบสั่งจองโดยอัตโนมัติหลังการเช็กอิน

แม้นั่นจะฟังดูเหมือนเป็นเรื่องในอนาคตที่ไกลตัว แต่ในปัจจุบันก็มีโรงแรมหรูหลายแห่งแล้วที่เริ่มนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับแขก ตั้งแต่ระบบจดจำเสียงที่สามารถทำให้ผู้เข้าพักสามารถสั่งพิซซ่าได้ใน 40 ภาษา ระบบล็อกอัจฉริยะที่สั่งปฏิบัติการได้ผ่านแอปพลิเคชันอย่างว็อตส์แอปบนสมาร์ตโฟน ไปจนถึงที่นอนติดเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวทำให้พนักงานโรงแรมสามารถเสิร์ฟกาแฟให้กับแขกได้อย่างทันใจหลังพวกเขาตื่นนอน

โดยพื้นฐานแล้ว ระบบเอไอจะช่วยรวบรวมข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับผู้เข้าพักคนนั้นๆ ให้กับโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทางหรือพฤติกรรมการกินและการสั่งอาหาร เพื่อช่วยดึงดูดให้พวกเขากลับมาเยือนอีกหลังได้รับการบริการชั้นยอดที่ตรงตามความต้องการของพวกเขาแทบจะทุกประ

ที่มา https://www.sanook.com/hitech/1443237/

Honda หยุดผลิตหุ่นยนต์ ASIMO พร้อมนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์เดินได้ไปต่อยอดด้านอื่น

 

ซึ่งข่าวนี้ทำให้หลายคนค่อนข้างตกใจไม่น้อย อย่างไรก็ดี ฮอนด้าบอกว่า จะนำเทคโนโลยีจาก ASIMO ไปต่อยอดทำอย่างอื่นต่อและคงเห็นในโลกอนาคต เช่นที่จัดแสดงในงาน CES 2018 กับ Concept Uni Cub ที่เป็นเก้าอี้ช่วยเหลือในเรื่องการเดิน นั่นเองความเป็นมาของหุ่นยนต์ ASIMO เริ่มต้นในการพัฒนามาตั้งแต่ปี 1980 จนสำเร็จออกมาเป็นหุ่นยนต์ขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป เปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 โดย ASIMO เป็นชื่อที่ย่อมาจาก Advanced Step in Innovative Mobility

ข้อมูล :The Verge

ภาพ :Asimo Honda